Marketing & Marketing Communication เหมือนหรือต่างกัน




 Marketing & Marketing Communication  

การตลาด 

เป็นกระบวนการแลกเปลี่ยนที่เริ่มตั้งแต่การค้นหาความต้องการของลูกค้า เลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีลักษณะคล้ายๆกัน สร้างสิ่งที่จะสนองความต้องการของลูกค้าและสถานที่ที่เหมาะสม และแจ้งให้กลุ่มเป้าหมายทราบว่ามีสิ่งนั้นอยู่ ซึ่งส่วนประสบทางการตลาดมี 4 อย่าง หรือที่เราเรียกว่า 4Ps นั้นประกอบด้วย Product (ผลิตภัณฑ์ สินค้าหรือบริการ) Price (ราคา) Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย) และ Promotion (การส่งเสริมการขาย)    

ผลิตภัณฑ์และราคาเป็นองค์ประกอบของส่วนประสบทางการตลาดที่อยู่กับตัวผลิตภัณฑ์ ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายและการส่งเสริมการตลาดเกี่ยวข้องกับการส่งมอบ อย่างแรกเป็นการส่งมอบสินค้าให้ถึงมือลูกค้า อย่างหลังเกิดก่อนอย่างแรกเพราะเป็นการส่งสารไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้คนกลุ่มนี้ทราบเกี่ยวกับสิ่งที่บริษัทนำเสนอ บางครั้งจึงเรียกว่าการสื่อสารการทางการตลาด (Marketing Communication)

การสื่อสารการตลาด

ประกอบด้วยคำว่าการสื่อสาร ซึ่งหายถึง กระบวนการที่ส่งต่อความคิดและแบ่งปันความหมายระหว่างบุคคลหรือกับบุคคล และคำว่า การตลาด ซึ่งหมายถึง กิจกรรมการส่งมอบคุณค่าหรือแลกเปลี่ยนระหว่างธุรกิจหรือองค์กรกับลูกค้า เมื่อนำสองคำนี้มารวมกัน ก็จะหมายถึงในส่วนประสบทางการตลาดของตราผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ ที่ช่วยให้กิจกรรมการแลกเปลี่ยนกิจกรรมดังกล่าวดำเนินไปง่ายขึ้น โดยผู้สื่อสารทางการตลาดจะมุ่งทำการตลาดให้แก่ตราผลิตภัณฑ์ต่อลูกค้า วางตำแหน่งตราผลิตภัณฑ์ให้แตหตางจากลูกค้า วางตำแหน่งตราผลิตภัณฑ์ให้แตหต่างจากคู่แข่งขัน และบอกกล่าวให้ผู้รับสารเป้าหมายทราบความหายของตราผลิตภัตฑ์ 

ผู้เขียนได้กล่าวโดยสรุปว่า การตลาด เน้นที่ผลลัพธ์ที่ได้จากสินค้า ความพึ่งพอใจของลูกค้า และกำไร แต่การสื่อสารการตลาด เน้นที่ผลลัพธ์ทางการสื่อสาร ซึ่งทำให้เกิดการจดจำสินค้า ในที่นี้จะกล่าวถึงเพิ่มเติมในส่วนของ 4Cs ซึ่งเข้ามาขยายทำให้การตลาดประสบความสำเร็จมายิ่งขึ้น (สิทธิ์ ธีรสรณ์ การสื่อสารการตลาด  2559)



– C1 คือ Consumer ‘s Need ความต้องการของผู้บริโภค การที่เราจะทำหรือนำสินค้าอะไรมาขายสักตัวนึง เราต้องคำนึงถึง ความต้องการของผู้บริโภคก่อนเป็นอันดับแรก ความทันสมัยนิยม ผู้ผลิตจำเป็นต้องศึกษาถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และติดตามกระแสของความนิยมของสังคมตลอดเวลา เพื่อให้สินค้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกใจลูกค้า

– C2 คือ Cost of Appreciation ความเหมาะสม หรือ ความพึงพอใจ ถ้าจะเปรียบเทียบราคากับคุณภาพของสินค้า เท่ากับ สิ่งที่ได้รับของลูกค้า นั้นก็คือความพึงพอใจนั้นเอง การตั้งราคาจึงมีความจำเป็นทั้งในด้านการผลิตและการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และควรคำนึงถึงคุณภาพของสินค้าด้วย หากสินค้ามีคุณภาพไม่เหมาะสมกับราคา จะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์และตัวสินค้าเอง

– C3 คือ Convenience  to Buy  ความสะดวกในการซื้อ  ในปัจจุบันโลกได้เข้าสู่สังคมดิจิตอล การซื้อสินค้าเข้าสู่ระบบโลกออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าได้เกิดความสะดวกสบาย และง่ายต่อการซื้อสินค้า ไม่จำเป็นต้องออกไปเดินซื้อตามร้านค้าทั่วไป หรือตามห้ามสรรพสินค้า และก็มีผลเสียอยู่คือ ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อนั้นต้องให้ความไว้วางใจต่อแบนรด์เป็นสำคัญมาก เพราะหมายถึงคุณภาพของสินค้า แต่ถ้าหากจะขายของตามร้านค้าแบบดั่งเดิมก็อาจจะหาวิธีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในวิธีต่างๆ และเสริมในเรื่องของการใช้การส่งเสริมการตลาดเข้าไปช่วย ก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความพึ่งพอใจในการตัดสินใจซื้อ



– C4 คือ Communication การสื่อสาร การนำเสนอ ทุกวันนี้การสื่อสารรวดเร็วกว่าสมัยก่อนมาก ในสมัยก่อนหากจะกล่าวถึงการสื่อสารก็คงไม่พ้นหนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ การตลาดทางตรง การประชาสัมพันธ์ แต่ในปัจบันการเข้าถึงสื่อได้ดีที่สุดคือโลกออนไลน์ การทำ VDO เพื่อแฟงไปกับการสื่อสารสินค้าเพื่อสร้างการจดจำ การเสนอผ่านทาง APP มือถือ การโฆษณาผ่านทางโซเชี่ยวมีเดีย เป็นต้น ซึ่งผู้ผลิตสามารถเลือกใช้ให้เข้ากับสินค้าของตนได้ และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าก็มากกว่า ง่ายกว่า และไวกว่า



สุรศักดิ์ สีลูกวัด
https://www.facebook.com/ZaaraaD/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทฤษฎีของแบนดูรา (Bandura) และทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม

Transfer of Training การถ่ายโอนการเรียนรู้

ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบอร์ก (Kohlberg)