กว่าคนไทยจะหายโศกเศร้าเสียใจในการจากไปของในหลวงรัชกาลที่ 9 คงต้องรอให้คนไทยในรัชสมัยของพระองค์ตายกันหมด ซึ่งอาจต้องใช้เวลากว่า 70 ปี




กว่าคนไทยจะหายโศกเศร้าเสียใจของการจากไปของในหลวงรัชกาลที่ 9 คงต้องรอให้คนไทยในรัชสมัยของพระองค์ตายกันหมด ซึ่งอาจต้องใช้เวลากว่า 70 ปี

นับตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ได้รับคติความเชื่อพราหมณ์ - ฮินดู จากอาณาจักรขอม ซึ่งมีความเชื่อที่ว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพ ได้ถ่ายทอดมายังอาณาจักรธนบุรี และอาณาจักรสยามจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช เป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว แต่คติความเชื่อดังกล่าวยังคงสืบทอดต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน



พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นพระมหาษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ และมีพระราชปณิธานที่แน่วแน่ที่จะทรงครองราชย์อยู่ด้วยทศพิธราชธรรมอย่างมิได้ตกบกพร่องแม้แต่น้อย ซึ่งตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ 70 ปีเศษนั้น ทรงทำคุณูปการเพื่อการพัฒนาและเพื่อให้คนไทยพ้นจากความยากจน มาโดยตลอด ทรงทำให้คนไทยได้เห็นเป็นแบบอย่างของความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์เหมือนผู้ปิดทองหลังพระ ทรงมีโครงการในพระราชดำริต่างๆมากมายกว่า 4,000 โครงการ ก็เพื่อคนไทยทั้งผอง ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยงานในพระองค์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือนานาอารยประเทศที่มีความอดยาก อาทิ ประเทศลาว อัฟกานิสถาน ภูฏาน เลโซโท เป็นต้น ซึ่งโครงการในพระราชดำริต่างๆที่ได้นำไปใช้กับประเทศของตนนั้นต่างก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันทั้งสิ้น แสดงให้เห็นว่าโครงการสิ่งต่างๆที่พระราชทานให้สามารถใช้ได้กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์โลกได้อย่างแท้จริง







ในปัจจุบันคนไทยกว่าร้อยละ 99.99% นั้นเกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งทุกคนต่างเห็นพระองค์ทรงงานมาตลอดระยะเวลาอย่างไม่เคยหยุดพักกว่า 70 ปี ทรงเสด็จไปในที่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร ทรงอยู่ท่ามกลางประชาชนของพระองค์อย่างไม่ถือพระองค์ ทรงอยู่อย่างพอเพียง ทรงอยู่กับดินอย่างประชาชนคนสามัญชนทั่วไป ทั้งหมดนี้ กว่าคนไทยจะหายโศกเศร้าเสียใจในการจากไปของในหลวงรัชกาลที่ 9 คงต้องรอให้คนไทยในรัชสมัยของพระองค์ตายจากกันไปจนหมด ซึ่งอาจต้องใช้เวลากว่า 70 ปี เหลือไว้แต่คำบอกเล่าของคนรุ่นเก่าที่เกิดในแผ่นดินของในหลวงรัชกาลที่ 9





คนไทยทั้งหลาย สิ่งที่พระองค์ได้สอน ได้พระราชทานไว้ให้พวกเราคนไทยตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ขอให้ได้บอกเล่า สืบทอดเรื่องราวต่างๆที่พระองค์ได้สอนเราไว้มากมายเท่าที่เราจะระลึกได้ ถ่ายทอดให้ลูกหลานในภายภาคหน้า ในรุ่นต่อไป ได้ศึกษา ซึมซับ เรียนรู้ และรับรู้ในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้สำหรับคนไทยทุกคน ให้ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชาวไทยสืบไปตราบนานเท่านาน




สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
สุรศักดิ์ สีลูกวัด
https://www.facebook.com/ZaaraaD/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทฤษฎีของแบนดูรา (Bandura) และทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม

Transfer of Training การถ่ายโอนการเรียนรู้

ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบอร์ก (Kohlberg)